“ต้มยำกุ้ง” ถือเป็นเมนูแรกๆ ที่ชาวโลกพูดถึงหากมีหัวข้อเกี่ยวกับอาหารไทย โดยต้มยำนั้นถือเป็นอาหารประเภทแกง เน้นรสเปรี้ยวและเผ็ดเป็นหลัก ผสมกับความเค็มและหวานเล็กน้อย ส่วนใหญ่แล้วคนจะรู้จักต้มยำกุ้งมากกว่าต้มยำที่ใส่เนื้อสัตว์ชนิดอื่น
ต้มยำกุ้งจะมี 2 ประเภท คือ ต้มยำน้ำใส และต้มยำน้ำข้น ซึ่ง สันติ ได้ให้คำอธิบายไว้ว่า ต้มยำโบราณจริงๆ นั้นไม่ได้ใส่น้ำพริกเผาเหมือนในทุกวันนี้ และจะเป็นต้มยำน้ำใส ที่ใส่มันกุ้งให้ดูสวยงามและเพิ่มรสชาติ ในช่วงหลัง เริ่มหามันกุ้งได้ยากขึ้นเพราะคนกินเยอะ เลยประยุกต์ใส่น้ำพริกเผาลงไปแทนเพื่อให้สีสันสวยงาม และยังมีการใส่กะทิ หรือนมสด ลงไปในต้มยำในภายหลัง ถือเป็นการดัดแปลงและพัฒนาจากน้ำใสมาเป็นน้ำข้น ส่วนความหวาน เดิมจะได้รสหวานมาจากความสดของกุ้ง แต่ปัจจุบันใส่ทั้งน้ำพริกเผา นมสด และน้ำตาล เพื่อให้ได้รสหวานมากขึ้น จนไม่ใช่รสชาติดั้งเดิมของต้มยำกุ้ง
ต้มยำกุ้งจะมี 2 ประเภท คือ ต้มยำน้ำใส และต้มยำน้ำข้น ซึ่ง สันติ ได้ให้คำอธิบายไว้ว่า ต้มยำโบราณจริงๆ นั้นไม่ได้ใส่น้ำพริกเผาเหมือนในทุกวันนี้ และจะเป็นต้มยำน้ำใส ที่ใส่มันกุ้งให้ดูสวยงามและเพิ่มรสชาติ ในช่วงหลัง เริ่มหามันกุ้งได้ยากขึ้นเพราะคนกินเยอะ เลยประยุกต์ใส่น้ำพริกเผาลงไปแทนเพื่อให้สีสันสวยงาม และยังมีการใส่กะทิ หรือนมสด ลงไปในต้มยำในภายหลัง ถือเป็นการดัดแปลงและพัฒนาจากน้ำใสมาเป็นน้ำข้น ส่วนความหวาน เดิมจะได้รสหวานมาจากความสดของกุ้ง แต่ปัจจุบันใส่ทั้งน้ำพริกเผา นมสด และน้ำตาล เพื่อให้ได้รสหวานมากขึ้น จนไม่ใช่รสชาติดั้งเดิมของต้มยำกุ้ง
ส่วนผสมของต้มยำกุ้ง
- น้ำสต็อกกุ้ง 4 ถ้วย
- กุ้งขนาดกลาง 12 ตัว
- ใบมะกรูดฉีกเอาแกนใบออก 6 ใบ
- ตะไคร้ทุบแล้วหั่นท่อน 1 ก้าน
- ข่าหั่นบาง ๆ 8 ชิ้น
- พริกขี้หนู เพื่อลิ้มรส
- น้ำพริกเผา (ตามชอบ) 4 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 1/2 ถ้วย
- น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาล 1 ช้อนชา
- เห็ดฟาง 3 ถ้วยตวง
- ผักชีฝรั่ง สำหรับโรยหน้า
ขั้นตอนการทำต้มยำกุ้ง
- ต้มน้ำสต็อกกุ้งในหม้อด้วยไฟกลางจนเดือด จากนั้นใส่ตะไคร้ ใบมะกรูด ข่า และพริกที่เตรียมไว้ลงในหม้อ
- ต้มซุปจนเดือด รอประมาณ 3-4 นาที จนกว่าจะได้กลิ่นหอมของสมุนไพร
- เมื่อน้ำซุปเริ่มเดือด ค่อย ๆ ใส่เห็ดฟางลงไป
- พอเดือดอีกครั้ง ค่อย ๆ ใส่กุ้งลงไป รอจนกุ้งเปลี่ยนเป็นสีส้ม แสดงว่าสุกดีแล้ว
- ใส่น้ำมะนาว น้ำปลา น้ำพริกเผา และน้ำตาลลงไป คนให้เข้ากัน ใครชอบรสแบบไหน ปรุงรสตามที่ชอบ
- โรยน้ำซุปด้วยผักชีฝรั่ง ตักใส่ถ้วย แล้วเสิร์ฟร้อนพร้อมข้าวสวย
อ้างอิงจาก: https://www.happyfresh.co.th/blog
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น